ไข้เลือดออก (Denque
Fever) เป็นโรคติดเชื้อชนิดหนึ่งที่มียุงลายตัวเมียเป็นพาหะ
โดยการกัดและดูดกินเลือดของผู้ที่กำลังป่วยด้วยโรคไข้เลือดออก แล้วถ่ายทอดเชื้อที่ได้รับมานั้นให้กับคนที่ถูกกัดต่อไป
ซึ่งในช่วงแรกผู้ป่วยจะมีอาการที่คล้ายกับโรคไข้หวัด จึงมักทำให้เข้าใจผิดและไม่เข้ารับการรักษาอย่างถูกวิธี
จนทำให้มีอาการของโรคที่รุนแรงขึ้น และกลายเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตได้
โดยเชื้อที่เป็นสาเหตุของโรคไข้เลือดออกก็คือ ไวรัสเดงกี
(Denque Virus) ซึ่งสามารถมีชีวิตและเพิ่มจำนวนได้ภายในตัวของยุงลาย
ซึ่งเป็นยุงที่แพร่และขยายพันธุ์ได้ดีในประเทศที่อยู่ในเขตภูมิอากาศแบบร้อนชื้น และประเทศไทยเองก็เป็นอีกหนึ่งประเทศที่พบการระบาดของโรคที่ค่อนข้างสูง
โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝน เพราะมีแหล่งเพาะพันธุ์ยุงที่เพิ่มมากขึ้น และจะพบอุบัติการณ์ของโรคนี้ในเด็กที่มีอายุต่ำกว่า
15 ปีเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากมีภูมิต้านทานที่ยังไม่ดีเพียงพอ
ดังนั้น
หากพบว่าบุตรหลานหรือผู้ใกล้ชิดมีอาการไข้ขึ้นสูง มีใบหน้าและตาแดง ปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อ
มีจุดเลือด หรือมีเลือดออกผิดปกติ เช่น เลือดกำเดาไหล มีเลือดออกตามไรฟัน
อาเจียนหรือถ่ายอุจจาระเป็นเลือด ซึม เบื่ออาหาร มือเท้าเย็น มีเหงื่อออกมาก
ชีพจรเต้นแรงแต่เบา ปวดบริเวณใต้ชายโครงด้านขวา และไม่ปัสสาวะ ก็ควรรีบนำตัวผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด
เพราะผู้ป่วยอาจช็อกและเสียชีวิตในเวลาต่อมาได้
โดยให้สังเกตอาการนำของภาวะช็อกว่าผู้ป่วยเริ่มมีไข้ลดลงหรือไม่ และถ้าหากเห็นว่าผู้ป่วยเริ่มมีไข้ลดลงแล้วตามด้วยอาการดังกล่าว
ก็ควรนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลทันที
อย่างไรก็ดี เนื่องจากในปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกัน
หรือยาฆ่าเชื้อไวรัสชนิดนี้ได้
การรักษาผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกส่วนใหญ่จึงเป็นการรักษาตามอาการ
โดยเฉพาะการใช้ยาลดไข้ เช็ดตัวบ่อย ๆ และดื่มน้ำให้มาก ๆ เพื่อป้องกันภาวะช็อกจากไข้ที่ขึ้นสูง
สำหรับยาลดไข้ก็ควรใช้เฉพาะยาพาราเซตามอล (Paracetamol) เท่านั้น
ห้ามใช้ยาแอสไพริน (Aspirin) และไอบูโปรเฟน (Ibuprofen)
เป็นอันขาด เพราะจะทำให้เลือดออกง่าย และควรใช้ยาตามขนาดที่ระบุทุก
ๆ 4-6 ชั่วโมง โดยเมื่อไข้ลดก็สามารถงดให้ยาได้ในทันที
จะเห็นได้ว่า ไข้เลือดออกเป็นโรคที่ยังไม่มีวัคซีนป้องกันหรือยารักษาดังที่กล่าว
ดังนั้น การป้องกันไม่ให้เป็นโรคด้วยการอย่าให้ยุงลายกัดโดยเฉพาะในช่วงเวลากลางวัน
และการตัดวงจรชีวิตหรือทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ ทั้งโดยวิธีทางธรรมชาติ ได้แก่
การคว่ำหรือทิ้งทำลายภาชนะแตก ยางรถยนต์เก่า หรือจานรองต้นไม้ที่มีน้ำขัง
การเปลี่ยนถ่ายน้ำในแจกันบ่อย ๆ การปล่อยปลาหางนกยูงเพื่อกินลูกน้ำลงในอ่างบัว
การใส่น้ำส้มสายชูลงในจานรองขาตู้กับข้าว และการใช้สารเคมีอย่างทรายอะเบท รวมทั้งสารเคมีฉีดพ่นเพื่อกำจัดยุงลาย
ก็ย่อมจะช่วยป้องกันการเกิดโรคนี้ได้ดีที่สุด
<> <> <> <> <> <> <> <> <>
สนใจอุปกรณ์ป้องกันยุง : http://mosqkill.com/
คำถามที่พบบ่อย : https://www.facebook.com/groups/847639198622997/
ช่องทางการติดต่อ : Line id : apin.t
#ยุงลาย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น